วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

เงินลงทุนระยะยาวมีความสำคัญอย่างไร

เงินลงทุนระยะยาวมีความสำคัญอย่างไร

          (1.1)    เงินลงทุนระยะยาว  หมายถึง  เงินลงทุนที่กิจการตั้งใจจะถือไว้เกิน 1 ปี เงินลงทุนระยะยาว รวมถึง ตราสารทุนที่จัดประเภทเป็นหลักทรัพย์เผื่อขาย เงินลงทุนทั่วไปตราสารหนี้   ที่จัดประเภทเป็นหลักทรัพย์เผื่อขายและตราสารหนี้ที่จะถือจนครบกำหนด

          (1.2) หลักทรัพย์เผื่อขาย  หมายถึง  เงินลงทุนในตราสารหนี้ทุกชนิด หรือตราสารทุนในความต้องการของตลาดซึ่งไม่ถือเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้า และในขณะเดียวกันไม่ถือเป็นตราสารหนี้ที่จะถือจนครบกำหนดหรือเงินลงทุนในบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วม หลักทรัพย์เผื่อขายสามารถแยกประเภทเป็นเงินลงทุนชั่วคราว หรือเงินลงทุนระยะยาว



          (1.3)  เงินลงทุนทั่วไป  หมายถึง  เงินลงทุนในตราสารทุนที่ไม่อยู่ในความต้องการของตลาด  ทำให้กิจการไม่สามารถจัดประเภทเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้า  หรือหลักทรัพย์เผื่อขาย  เงินลงทุนทั่วไปสามารถแยกประเภทเป็นเงินลงทุนชั่วคราวหรือเงินลงทุนระยะยาว

          (1.4)  ตราสารหนี้ที่จะถือจนครบกำหนด  หมายถึง  เงินลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ที่กิจการมีความตั้งใจแน่วแน่ และมีความสามารถที่จะถือไว้จนครบกำหนดไถ่ถอน

          (1.5)  ราคาทุนตัดจำหน่าย  หมายถึง  ราคาทุนของตราสารหนี้ที่ได้มา หรือโอนมาตั้งแต่เริ่มแรกหักเงินต้นที่จ่ายคืน และบวกหรือหักค่าตัดจำหน่ายสะสมของส่วนต่าง ๆ ระหว่างราคาทุนเริ่มแรกกับมูลค่าที่ตราไว้ การตัดจำหน่ายส่วนต่างดังกล่าวต้องคำนวณโดยใช้วิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง หรือวิธีอื่นที่ให้ผลไม่แตกต่างจากวิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอย่างมีนัยสำคัญ


        เป็นหลักทรัพย์ที่กิจการถือไว้โดยมิได้มีวัตถุประสงค์หลักที่จะค้าหลักทรัพย์ แม้ว่ากิจการจะเต็มใจขายหลักทรัพย์ดังกล่าวทันทีที่โอกาสอำนวย หลักทรัพย์ที่กิจการได้มาโดยไม่มีวัตถุประสงค์แน่นอนต้องจัดประเภทเป็นหลักทรัพย์เผื่อขายในทันที เงินลงทุนตราสารทุนและตราสารหนี้ที่กิจการซื้อไว้และจัดเข้าเป็นประเภทหลักทรัพย์เผื่อขายได้ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

       หลักการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับหลักทรัพย์เผื่อขาย



1.  ในวันที่ได้มาให้จัดประเภทเงินลงทุนเป็นหลักทรัพย์เผื่อขาย และบันทึกบัญชีด้วยราคาต้นทุนของเงินลงทุน

2.  แสดงหลักทรัพย์เผื่อขายในงบดุลด้วยราคายุติธรรม ในวันสิ้นงวดกิจการต้องบันทึกการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของหลักทรัพย์เผื่อขายเป็นรายการแยกต่างหากในส่วนของเจ้าของ

3.  เมื่อขายหลักทรัพย์เผื่อขาย วิธีบันทึกปฏิบัติเหมือนหลักทรัพย์เพื่อค้า

         การบันทึกบัญชีมี 4 รายการ  คือ

1.  เมื่อซื้อหลักทรัพย์
2.  เมื่อรับผลประโยชน์
3.  รายการปรับปรุงวันสิ้นงวด
4.  เมื่อขายหลักทรัพย์

      ตราสารหนี้ที่จัดเป็นเงินลงทุนระยะยาว การบันทึกราคาทุนต่างจากราคาทุนของตราสารทุน เนื่องด้วยมีอัตราดอกเบี้ยของตราสารหนี้กับอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดราคาซื้อขายของตราสารหนี้ในท้องตลาด

ก.       ราคาตามมูลค่า  หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดของตราสารเท่ากับอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด
ข.        ราคาสูงกว่ามูลค่า  หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดของตราสารสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดเท่ากับผู้ขายได้เรียกผลต่างของอัตราดอกเบี้ย ที่ให้สูงกว่าราคาท้องตลาดจากผู้ลงทุนซื้อมาก่อน แล้วจ่ายดอกเบี้ยให้ตามอัตราในเวลาที่กำหนดโดยคำนวณจากราคาตามมูลค่า  

         กิจการต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการโอนเปลี่ยนเงินลงทุนจากประเภทหนึ่งไปเป็นอีกประเภทหนึ่งดังต่อไปนี้สำหรับการโอนเปลี่ยนหลักทรัพย์เพื่อค้าไปเป็นเงินลงทุนประเภทอื่น กิจการต้องใช้มูลค่ายุติธรรม ณ วันที่โอนในการบันทึกบัญชีและรับรู้ผลต่างระหว่างราคาตามบัญชีกับมูลค่ายุติธรรม ณ วันนั้นในงบกำไรขาดทุนทันที

         สำหรับการโอนเปลี่ยนเงินลงทุนประเภทอื่นไปเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้า กิจการต้องใช้มูลค่ายุติธรรม ณ วันที่โอนในการบันทึกบัญชีและรับรู้ผลต่างระหว่างราคาตามบัญชีกับมูลค่ายุติธรรม ณ  วันนั้น  พร้อมทั้งกลับบัญชีทุกบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเงินลงทุนที่โอนเปลี่ยนในงบกำไรขาดทุนทันที

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น