(1.1) เงินลงทุนระยะยาว หมายถึง เงินลงทุนที่กิจการตั้งใจจะถือไว้เกิน 1 ปี เงินลงทุนระยะยาว รวมถึง ตราสารทุนที่จัดประเภทเป็นหลักทรัพย์เผื่อขาย เงินลงทุนทั่วไปตราสารหนี้ ที่จัดประเภทเป็นหลักทรัพย์เผื่อขายและตราสารหนี้ที่จะถือจนครบกำหนด
(1.2) หลักทรัพย์เผื่อขาย หมายถึง เงินลงทุนในตราสารหนี้ทุกชนิด หรือตราสารทุนในความต้องการของตลาดซึ่งไม่ถือเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้า และในขณะเดียวกันไม่ถือเป็นตราสารหนี้ที่จะถือจนครบกำหนดหรือเงินลงทุนในบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วม หลักทรัพย์เผื่อขายสามารถแยกประเภทเป็นเงินลงทุนชั่วคราว หรือเงินลงทุนระยะยาว

(1.3) เงินลงทุนทั่วไป หมายถึง เงินลงทุนในตราสารทุนที่ไม่อยู่ในความต้องการของตลาด ทำให้กิจการไม่สามารถจัดประเภทเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้า หรือหลักทรัพย์เผื่อขาย เงินลงทุนทั่วไปสามารถแยกประเภทเป็นเงินลงทุนชั่วคราวหรือเงินลงทุนระยะยาว
(1.4) ตราสารหนี้ที่จะถือจนครบกำหนด หมายถึง เงินลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ที่กิจการมีความตั้งใจแน่วแน่ และมีความสามารถที่จะถือไว้จนครบกำหนดไถ่ถอน
(1.5) ราคาทุนตัดจำหน่าย หมายถึง ราคาทุนของตราสารหนี้ที่ได้มา หรือโอนมาตั้งแต่เริ่มแรกหักเงินต้นที่จ่ายคืน และบวกหรือหักค่าตัดจำหน่ายสะสมของส่วนต่าง ๆ ระหว่างราคาทุนเริ่มแรกกับมูลค่าที่ตราไว้ การตัดจำหน่ายส่วนต่างดังกล่าวต้องคำนวณโดยใช้วิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง หรือวิธีอื่นที่ให้ผลไม่แตกต่างจากวิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอย่างมีนัยสำคัญ
เป็นหลักทรัพย์ที่กิจการถือไว้โดยมิได้มีวัตถุประสงค์หลักที่จะค้าหลักทรัพย์ แม้ว่ากิจการจะเต็มใจขายหลักทรัพย์ดังกล่าวทันทีที่โอกาสอำนวย หลักทรัพย์ที่กิจการได้มาโดยไม่มีวัตถุประสงค์แน่นอนต้องจัดประเภทเป็นหลักทรัพย์เผื่อขายในทันที เงินลงทุนตราสารทุนและตราสารหนี้ที่กิจการซื้อไว้และจัดเข้าเป็นประเภทหลักทรัพย์เผื่อขายได้ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
หลักการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับหลักทรัพย์เผื่อขาย

1. ในวันที่ได้มาให้จัดประเภทเงินลงทุนเป็นหลักทรัพย์เผื่อขาย และบันทึกบัญชีด้วยราคาต้นทุนของเงินลงทุน
2. แสดงหลักทรัพย์เผื่อขายในงบดุลด้วยราคายุติธรรม ในวันสิ้นงวดกิจการต้องบันทึกการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของหลักทรัพย์เผื่อขายเป็นรายการแยกต่างหากในส่วนของเจ้าของ
3. เมื่อขายหลักทรัพย์เผื่อขาย วิธีบันทึกปฏิบัติเหมือนหลักทรัพย์เพื่อค้า
การบันทึกบัญชีมี 4 รายการ คือ
1. เมื่อซื้อหลักทรัพย์
2. เมื่อรับผลประโยชน์
3. รายการปรับปรุงวันสิ้นงวด
4. เมื่อขายหลักทรัพย์
ตราสารหนี้ที่จัดเป็นเงินลงทุนระยะยาว การบันทึกราคาทุนต่างจากราคาทุนของตราสารทุน เนื่องด้วยมีอัตราดอกเบี้ยของตราสารหนี้กับอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดราคาซื้อขายของตราสารหนี้ในท้องตลาด
ก. ราคาตามมูลค่า หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดของตราสารเท่ากับอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด
ข. ราคาสูงกว่ามูลค่า หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดของตราสารสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดเท่ากับผู้ขายได้เรียกผลต่างของอัตราดอกเบี้ย ที่ให้สูงกว่าราคาท้องตลาดจากผู้ลงทุนซื้อมาก่อน แล้วจ่ายดอกเบี้ยให้ตามอัตราในเวลาที่กำหนดโดยคำนวณจากราคาตามมูลค่า
กิจการต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการโอนเปลี่ยนเงินลงทุนจากประเภทหนึ่งไปเป็นอีกประเภทหนึ่งดังต่อไปนี้สำหรับการโอนเปลี่ยนหลักทรัพย์เพื่อค้าไปเป็นเงินลงทุนประเภทอื่น กิจการต้องใช้มูลค่ายุติธรรม ณ วันที่โอนในการบันทึกบัญชีและรับรู้ผลต่างระหว่างราคาตามบัญชีกับมูลค่ายุติธรรม ณ วันนั้นในงบกำไรขาดทุนทันที
สำหรับการโอนเปลี่ยนเงินลงทุนประเภทอื่นไปเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้า กิจการต้องใช้มูลค่ายุติธรรม ณ วันที่โอนในการบันทึกบัญชีและรับรู้ผลต่างระหว่างราคาตามบัญชีกับมูลค่ายุติธรรม ณ วันนั้น พร้อมทั้งกลับบัญชีทุกบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเงินลงทุนที่โอนเปลี่ยนในงบกำไรขาดทุนทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น